30 ก.ย. 2553

ลิง


พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าจิตของคนเรานั้น เหมือนกับลิง เราจึงเรียนรู้เรื่องของจิตใจของเราได้มากมายจากพฤติกรรมของลิง ลิงนั้นเกลียดกะปิ ถ้ากะปิถูกมือมันเมื่อใด มันจะถูนิ้วกับพื้นจนเลือดไหลเต็มมือจนกว่ากลิ่นกะปิจะหายในที่สุด จนกลายเป็นว่า “กะปิ” ถึงจะร้าย ก็ไม่ร้ายเท่า “ความเกลียดกะปิ” ที่มือลิงเป็นแผลเหวอะหวะ ไม่ใช่เพราะกะปิ ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็กๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้ในกล่องมีถั่วซึ่งเป็นของโปรดของลิง วางไว้เป็นเหยื่อล่อวันดีคืนดี ลิงมาที่สวน เห็นถั่วอยู่ในกล่องก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่วแต่พอถอนมือออกมาก็ติดฝากล่องเพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้ลิงพยายามดึงมือ เท่าไหร่ก็ไม่ออกพอชาวบ้านมาจับก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียวสุดท้ายก็ถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจว่า เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น มันก็เอาตัวรอดได้แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยจึงต้องเอาชีวิตเข้าแลกมีหลายอย่างที่เราอยากได้ใฝ่ฝันจึงถึงกับยึดไว้อย่างเหนียวแน่นเวลาประสบปัญหา เพียงแค่คลายสิ่งที่ ติดยึดนั้นเสียบ้าง ปัญหาก็คลี่คลายแต่เป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อย จึงเกิดผลเสียตามมามากมายไม่คุ้มกับสิ่งที่ติดยึดจะชอบหรือพึงใจกับอะไรก็ตามอย่าถึงกับยึดติดจนเหนียวแน่นเกินไป เพราะโอกาสที่หน้ามืดตามัวนั้นมีสูงจนหาทางออกไม่เจอปัญหาทั้งหลายในชีวิตนั้น ถ้าเรารู้จักปล่อยวางบางสิ่งเสียบ้าง มันก็จะบรรเทาไปได้เยอะบ่อยครั้งการปล่อยวางไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเท่านั้นหากเป็นทางออกจากปัญหาเลยทีเดียวความจริง การอยากผลักไสอะไรสักอย่าง ก็เป็นการติดยึดอีกแบบหนึ่งนั่นเองทั้งๆ ที่ลิงพยายามถูกำจัด กลิ่นกะปิไปจากมือก็อดไม่ได้ที่จะดึงมือมาดมหากลิ่นกะปิซ้ำแล้วซ้ำเล่ารู้ทั้งรู้ว่ากลิ่นกะปินั้นเหม็นแต่ก็ดมมือไม่ยอมเลิกง่ายๆ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าเราจะโกรธอะไรหรือเกลียดใครก็มักดึงสิ่งนั้นหรือคนนั้นเข้ามาในจิตใจให้ครุ่นคิดเสมอไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวางเสียที ทั้งๆ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ปล่อยวางเสียเถิดแล้วใจเราจะเบาขึ้นเป็นกองความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเพราะพลัดพรากจากสิ่ที่รักหรือประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาที่มันบีบคั้น กดทับจิตใจเราไม่หยุดหย่อนเสียทีก็เป็นเพราะเราไปยึดไปแบกมันเข้าไว้ ทั้งวันทั้งคืนในหลายกรณีความทุกข์ก็ไม่ได้มาจากไหนหากมาจากการยึดติดไม่ยอมปล่อยดังเจ้าลิงหวงถั่วนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น